โรคหูดหงอนไก่




อาการ

 อาการของหูดหงอนไก่ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือติ่งเนื้อลักษณะคล้ายดอกกะหล่ำที่บริเวณอวัยวะเพศหรือที่ทวารหนัก ขนาดของหูดหงอนไก่อาจมีขนาดเล็กจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น หรือมีขนาดใหญ่จนก่อให้เกิดอาการระคายเคืองได้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วหูดหงอนไก่จะไม่ทำให้เกิดอาการเจ็บหรือระคายเคือง เว้นแต่ในบางกรณีหูดหงอนไก่อาจสร้างความเจ็บปวดจนทำให้ต้องทำการรักษาเพื่อบรรเทาอาการ

การติดต่อ

 แม้ "หูดหงอนไก่" จะจัดเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่จริง ๆ แล้ว แม้จะไม่มีเพศสัมพันธ์ก็สามารถรับเชื้อนี้เข้าไปได้โดยการสัมผัส เพราะเชื้อเหล่านี้อาจพบได้ตามร่างกาย ผม ซอกเล็บ เครื่องใช้ต่าง ๆ บางคนอาจนำสิ่งของ หรือมือที่เปื้อนเชื้อไวรัส HPV มาสัมผัสอวัยวะเพศ ก็สามารถติดเชื้อไวรัสตัวนี้ได้เช่นกัน
  อย่างไรก็ตาม การติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยมีการสัมผัสระหว่างผิวหนังกับผิวหนังเป็นช่องทางติดต่อที่พบบ่อยที่สุด ส่วนการใช้เครื่องใช้ส่วนตัวร่วมกัน เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว สบู่ รวมทั้งการสัมผัสหรือเกา แล้วไปสัมผัสบริเวณอื่น เป็นปัจจัยรองลงมา โดยมีระยะฟักตัวนาน 1-6 เดือน

กลุ่มเสี่ยง

 ผู้ที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ และมีเพศสัมพันธ์ไม่ปลอดภัย

พฤติกรรมเสี่ยง

 1.มีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกันด้วยถุงยางอนามัย
 2.ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน
 3.ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
 4. ผู้ที่มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ (ชายรักชาย)
 5.คู่นอนมีการติดเชื้อหูดหงอนไก่

การป้องกัน

 แม้ถุงยางอนามัยจะช่วยป้องกันโรคเอดส์ หนองใน ได้ทางหนึ่ง แต่สำหรับโรคหูดหงอนไก่อาจจะช่วยป้องกันไม่ได้เท่าไรนัก เพราะเชื้อ HPV นี้ จะกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ทั้งทวารหนัก ฝีเย็บ หัวเหน่า ฯลฯ ซึ่งเป็นบริเวณที่ถุงยางอนามัยไม่ครอบคลุมนั่นเอง ฉะนั้นแล้ว หากมีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีเชื้อนี้อยู่ในตัวก็ถือว่าเสี่ยงต่อการเป็นหูดหงอนไก่ได้เช่นกัน
  เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว วิธีการที่จะป้องกันที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนที่สามารถลดการเกิดโรคหูดหงอนไก่ได้ แต่ผู้ที่จะฉีดนั้นต้องไม่เคยติดเชื้อมาก่อน โดยวัคซีนนี้จะมาในรูปร่วมกับวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกในเข็มเดียวกัน ไม่มีการทำวัคซีนแยกออกมา เป็นวัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ 6, 11, 16 และ 18



ที่มารูปภาพ : http://decembertown.com/
ที่มาวีดีโอ : https://www.youtube.com/watch?v=9fmH3jYhNgc